น้ำพริก เมนูไทยๆ ที่ทั้งอร่อยและมีสรรพคุณทางยา
“น้ำพริก” จัดได้ว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของไทยที่มีมาอย่างช้านาน มีส่วนประกอบของสมุนไพรต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พริก, กระเทียม, มะนาว, ขิง, ข่า อีกทั้งมีแคลอรี่ต่ำ ยิ่งหากทานคู่กับผักสดๆ ก็ยิ่งมีประโยชน์มาก
.
1. พริก
มีสารสำคัญคือแคปไซซีน (capsaicin) ซึ่งมีสรรพคุณต้านเชื้อรา และบรรเทาปวด จึงใช้ในการบรรเทาและรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดเส้นประสาท ปวดข้อ การติดเชื้อทางผิวหนัง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับไขมันในเลือด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต สลายลิ่มเลือด ลดการอุดตันของหลอดเลือด อีกทั้งรสที่เผ็ดร้อนก็จะช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอและอาการเจ็บคอได้
.
2. มะนาว
ประกอบไปด้วยกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิก กรดแอสคอร์บิก เป็นแหล่งรวมวิตามินซีและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในแง่ของสรรพคุณทางสมุนไพร มะนาวช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูกได้ดี
.
3. กระเทียม
อุดมไปด้วยซัลเฟอซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านการติดเชื้อและเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และสารเซเลเนียมซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมอายุของเซลส์ต่างๆ และเพิ่มปริมาณการสร้างกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารสำคัญในตับในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยในเรื่องผิวพรรณ ในทางการแพทย์ กระเทียมยังใช้เป็นยาขับเสมหะ มีฤทธิ์ขับเหงื่อและขับปัสสาวะ หากทานกระเทียมสดเป็นประจำ จะช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันและคอเลสเตอรอล ป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว และลดน้ำตาลในเลือดได้
.
4. หอมแดง
ประกอบไปด้วยสารสำคัญที่มีสรรพคุณทางยา เช่น สารเคอร์ซิตินที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันหอมระเหยซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารโพรพิลไดซันไฟด์และไดโพรพิลไดซันไฟด์ ช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกาย และลดน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ เมื่อหัวหอมถูกทุบหรือทำให้แตก จะเกิดสารอัลลิซิน ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้
.
5. ข่า
เป็นพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งซึ่งคนไทยนิยมใช้มาตั้งแต่อดีต โดยนำมาประกอบอาหารและยังใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคอีกด้วย ด้วยสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร ลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้เป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด หรือนำมาทารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน และลมพิษ อีกทั้งในข่ามีสาร Acetoxychavicol Acetate (ACA) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งได้
.
6. ขิง
มีสารสำคัญคือ จินเจอรอล (gingerol), โชเกล (shogaol)และซิงเบอรีน (zingiberene) ซึ่งช่วยลดอาการติดเชื้อและอาการอับเสบในร่างกาย อุดมสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชลอความชรา ลดความดันโลหิต ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาหวัด ไมเกรน ลดอาการคลื่นไส้ และยังมีสรรพคุณเสริมสร้างระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยลดระดับความดันเลือดอีกด้วย
.
7. ตะไคร้
อุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุจำเป็นหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน และสารสำคัญอย่าง น้ำมันหอมระเหยและอัลคาลอยด์ มีสรรพคุณช่วยในการย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ปวดท้อง ช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้อาการขัดเบา ปัสสาวะขัดไม่คล่อง นอกจากนี้ ใบตะไคร้ยังช่วยลดความดันโลหิตสูง นำมาใช้สกัดทำน้ำมันหอมระเหย และมีคุณสมบัติกันยุงได้อีกด้วย
.
น้ำพริกว่ามีประโยชน์แล้ว ยิ่งกินคู่กับผักทั้งสดทั้งสุกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา มะเขือยาว กระเจี๊ยบเขียว มะระขี้นก ใบบัวบก ยอดสะเดา และผักพื้นบ้านอีกมากมาย ก็ยิ่งช่วยเพิ่มสรรพคุณที่ช่วยต้านโรค NCDs เป็นเหมือนยารสอร่อย แถมมีไฟเบอร์สูงอีกด้วยค่ะ