ผิวพรรณที่ดี สามารถส่งเสริมได้จากภายนอกด้วยครีมบำรุงผิวที่มีมากมายให้เลือกใช้ แต่แท้จริงแล้วการให้อาหารผิวจากภายในก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
อาหารผิวที่ดี คือ อาหารจากธรรมชาติ วิตามินสำเร็จรูปอาจมีความสะดวกสบายในการหามารับประทานมากกว่า แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ว่า จะให้ผลดีเทียบเท่ากับวิตามินที่ได้จากอาหาร
วิตามิน C
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผิวหนัง หากผิวหนังสัมผัสกับแสง UV จะทำให้วิตามิน C ลดลงได้ถึง 30% และหากสัมผัสกับโอโซนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมลภาวะในเมือง จะทำให้วิตามิน C ในผิวหนังลดลงได้มากถึง 55%
วิตามิน C พบมากในผลไม้กลุ่ม citrus เช่น ส้ม มะนาว วิตามิน C มีส่วนในการสร้างคอลลลาเจน ซ่อมแซมผิว ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยซ่อมแซมผิวที่เกิดริ้วรอย
วิตามิน A
ช่วยด้านภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตาและผิวพรรณ นอกจากนี้ เรตินอล (retinol) เป็นวิตามินเอชนิดหนึ่ง ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถรักษาริ้วร่อยเหี่ยวย่นได้ ช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจน
วิตามิน A พบได้มากในผักสีเขียวเข้ม และพืชผักผลไม้สีส้มเหลือง เช่น มันหวาน เคลยอดชะอม ยอดกระถิน ผักโขม คะน้า มะม่วง แครอท พริกหวาน
วิตามิน D
จะทำงานร่วมกับแคลเซียมให้กระดูกหนาแน่นและแข็งแรง ทั้งนี้ การสูญเสียมวลกระดูก เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าเราเริ่มเข้าสู่วัยที่ร่างกายเสื่อมถอย โดยเฉพาะในผู้หญิง และสาเหตุหนึ่งที่ใบหน้าดูหย่อนคล้อย เกิดจากการสูญเสียไขมัน คอลลาเจน และมวลกระดูกบนใบหน้าซึ่งเกิดจากการเสื่อมตามวัย
วิตามิน D พบได้มากในปลาไขมันสูง ผลิตภัณฑ์นม ไข่แดง และสามารถสังเคราะห์ได้จากการได้รับแสงแดด แต่การได้รับแสงแดดจัด จะทำให้ผิวเราแก่กว่าวัยได้
วิตามิน K
ช่วยให้คอลลาเจนเกาะตัวกันได้ดี และทำให้ผิวหนังหนา ส่งผลให้มองเห็นเส้นเลือด รอยช้ำ หรือรอยคล้ำใต้ตาได้น้อยลง
วิตามิน K พบมากในผักสีเขียว เช่น เคล คะน้า ผักโขม บร็อคโคลี่ และนัตโตะ
วิตามิน E
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวของเซลล์ และปกป้องเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง และจะทำงานได้ดีเมื่อทำงานร่วมกับกับวิตามิน C ในการทำให้เซลล์แข็งแรง วิตามิน E ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบ
วิตามิน E เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน พบได้ในน้ำมันพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืช เมล็ดพืช และผลิตภัณฑ์นม
การรับประทานผักผลไม้ มีข้อดีกว่าการรับประทานวิตามินแบบสำเร็จรูป เนื่องจากทำให้เราได้รับ phytonutrients ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายเรา
ที่มา
https://www.webmd.com/beauty/features/myth-vs-reality-on-anti-aging-vitamins
https://m.huffpost.com/us/entry/us_6818430?test_ad=taboola_iframe_mw_life&guccounter=1
https://www.healthline.com/nutrition/foods-high-in-vitamin-k#section4