‘ฟักทอง’ มหัศจรรย์ผักสีเหลืองที่มากสรรพคุณ
.
ในบ้านเรานั้นนิยมทานฟักทองกันมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติที่หอมหวานอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
.
✅อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินอี ไนอาซิน (วิตามินบี 3) แมกนีเซียม โปแตสเซียม เซเลเนียม สังกะสี และเหล็ก
.
✅ มีไฟเบอร์สูง อุดมไปด้วยกากใยอาหาร ช่วยให้อิ่มเร็ว และให้พลังงานแคลอรี่น้อยมาก จึงเหมาะกับผู้ลดความอ้วน (เนื้อฟักทอง 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 6 กรัม ให้พลังงาน 26 kcal)
.
✅ เป็นแหล่งสำคัญของสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และช่วยชะลอความแก่ได้
.
✅ มีสารเบต้าแคโรทีน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และต้านเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ ปอด และเต้านม
.
✅ มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มระดับอินซูลินในเลือด และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
.
✅ เป็นแหล่งของธาตุฟอสฟอรัส ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และช่วยรักษาสมดุลของกรดด่างภายในร่างกาย
.
✅ มีสารคิวเคอร์บิตาซิน (cucurbitacins) ที่มีประสิทธิภาพในการต้านเซลล์มะเร็ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและบรรเทาอาการอักเสบ
.
✅ อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
.
✅ ช่วยปกป้องเซลล์ตับ มีฤทธิ์ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต รักษาโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และสามารถใช้ขับพยาธิในลำไส้ได้
.
เมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์อันมากมายของฟักทองกันแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะทำเมนูแกงบวดฟักทอง ฟักทองผัดไข่ ซุปฟักทอง หรือจะนำมาปั่นทานเป็นสมูทตี้ ก็ทั้งเอร็ดอร่อยแถมดีต่อร่างกายอย่างแน่นอนค่ะ
