คุณกินคอลลาเจนผิดประเภทอยู่หรือเปล่า? “คอลลาเจน” เป็นอาหารเสริมที่มีคนกินเป็นจำ…

คุณกินคอลลาเจนผิดประเภทอยู่หรือเปล่า?

“คอลลาเจน” เป็นอาหารเสริมที่มีคนกินเป็นจำนวนมาก ได้รับความนิยมสูง ซึ่งคอลลาเจนเป็นตัวช่วยที่ช่วยดูแลเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ เต่งตึง มีความกระจ่างใส แล้วนอกจากนี้คอลลาเจนยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่ออีกด้วย แต่ในหลายๆ คนก็มักเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วคอลลาเจนเมื่อทานไปแล้วจะได้รับประโยชน์ได้จริงหรือไม่ แล้วควรต้องเลือกทานคอลลาเจนชนิดไหน เลือกทานยังไง วันนี้เราจึงมาแนะนำวิธีการเรื่องการทานคอลลาเจนให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากกันค่ะ
.
ประเภทของคอลลาเจน
คอลลาเจนมีอยู่ 3 ประเภท คือ ไทป์ 1 , ไทป์ 2 , ไทป์ 3
– คอลลาเจน ไทป์ 1 , ไทป์ 3 เป็นคอลลาเจนที่ดูแลเรื่องของผิวพรรณ โครงสร้างของคอลลาเจนจะมีความนุ่น แต่จะไม่มีแร่ธาตุต่างๆ ไปจับไปเกาะ
– คอลลาเจน ไทป์ 2 เป็นคอลลาเจนที่ดูแลเรื่องของกระดูกและข้อ โครงสร้างของคอลลาเจนจะมีความแข็ง แล้วมีแร่ธาตุต่างๆ เข้าไปเกาะไปจับ
.
คุณสมบัติของคอลลาเจนแต่ละประเภท
– คอลลาเจนไทป์ 2 ดูแลเรื่องกระดูกและข้อต่อ เป็นคอลลาเจนที่มีคนทานจำนวนมาก แล้วมีความซับซ้อนในการเลือกทานมากกว่า ปกติถ้าต้องการดูแลเรื่องกระดูกและข้อ เราต้องการคอลลาเจนไทป์ 2 โดยจะต้องการคอลลาเจน 2 ชนิดด้วยกัน คือ

1. Undenatured Collagen Type ll หรือ UC-ll ซึ่งเป็น Native Collagen เป็นคอลลาเจนที่ไม่ถูกทำลายโครงสร้าง เป็นคอลลาเจนที่มีองค์ประกอบของโครงสร้างคอลลาเจนที่ครบสมบูรณ์ โดยเราต้องการคอลลาเจนนี้ประมาณ 40 mg/วัน ซึ่งคอลลาเจนโครงสร้างแบบนี้เมื่อเวลาเรากินเข้าไปจะไปทำปฏิกิริยากับภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจะกระตุ้นผ่านตั้งแต่ลำไส้ เช่น ในคนที่มีข้อเข่าเสื่อม พบว่า เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของเราไปทำลายผิวข้อ เพราะฉะนั้น UC-ll จะไปทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันของเราไม่ไปทำลายผิวข้อ ผิวข้อก็จะไม่เกิดการอักเสบ จะสามารถลดการปวดของข้อต่างๆ ได้

2. คอลลาเจนไดเปปไทด์หรือไตรเปปไทด์ ถ้าเรามีการกินคอลลาเจนที่เป็นโมเลกุลใหญ่ๆ เข้าไปคอลลาเจนเหล่านี้ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้ กินเข้าไปก็จะไม่เกิดประโยชน์ เพราะฉะนั้นเวลาเลือกกินคอลลาเจนไม่ว่าจะเป็นไทป์ไหน ควรเลือกทานในรูปแบบไดเปปไทด์หรือไตรเปปไทด์ ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่โดนย่อยแล้วตัดให้เป็นสายสั้นๆ ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนเหล่านี้เข้าไปได้ แล้วคอลลาเจนก็จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมผิวข้อได้ ซึ่งไดเปปไทด์หรือไตรเปปไทด์เป็นคอลลาเจนที่เป็นโมเลกุลเล็ก น้ำหนักโมเลกุลน้อย ร่างกายก็จะดูดซึมเข้าไปได้ดี และจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมผิวข้อได้ดียิ่งขึ้น โดยทานวันละ 10,000 มก. ซึ่งคอลลาเจนตัวนี้จึงมีลักษณะเป็นซองและเป็นผงชง เพราะว่าจะต้องกินเข้าไปในปริมาณมาก แต่ก็มีคอลลาเจนไดหรือไตรเปปไทด์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถกินในปริมาณน้อยๆ ได้ กลุ่มนี้เรียกว่า HACP หรือ High Advance Collagen Peptide หรือ High Advance Collagen Tripeptide ซึ่งกลุ่มนี้ตัวน้ำหนักโมเลกุลของคอลลาเจนจะมีขนาดเล็กมาก และการดูดซึมก็จะยิ่งดีมากขึ้น เพราะฉะนั้นการใช้คอลลาเจน HACP จึงใช้ในปริมาณน้อยๆ ได้ ใช้ประมาณ 500 mg/วัน ก็จะสามารถดูดซึมและเข้าไปซ่อมแซมผิวข้อได้

– คอลลาเจนไทป์ 1 , ไทป์ 3 ดูแลเรื่องของผิวพรรณ โดยจะเลือกกินเป็นไดหรือไตรเปปไทด์ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปได้ ถ้าจะเลือกเป็นเม็ดก็จะต้องเลือกเป็น HACP จะสามารถดูดซึมเข้าไปแล้วไปช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ มีการทดลองว่าคอลลาเจนชนิดนี้เมื่อทานเข้าไปแล้วจะสามารถเข้าไปช่วยเรื่องผิวพรรณได้จริงหรือไม่? พบว่า เมื่อเอาคอลลาเจนมาย่อยเป็นสายสั้นแล้ว เวลาร่างกายดูดซึมเข้าไปคอลลาเจนก็จะไปช่วยในเรื่องของผิวพรรณได้ แต่มีชนิดที่ไม่เห็นผล คือ ชนิดที่ไม่ใช่ไดหรือไตรเปปไทด์ ร่างกายก็จะดูดซึมเข้าไปไม่ได้นั่นเอง
.
จะเห็นได้ว่า คอลลาเจนมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่าง ทั้งช่วยดูแลเรื่องกระดูกและข้อต่อ ดูแลเรื่องผิวพรรณ เราจึงควรเลือกทานคอลลาเจนให้ถูกต้องตามสิ่งที่เราต้องการ เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมคอลลาเจนเหล่านั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยังไงก็ตามการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีและสามารถทำได้ทุกคน เราจึงไม่ควรละเลยเรื่องของสุขภาพร่างกายของตัวเอง ควรใส่ใจและดูแลร่างกายของตัวเราเองให้ดีที่สุด แล้วเราก็จะไม่ต้องไปฝากชีวิตไว้กับหมอได้นะคะ : )

ติดต่อเรา