ป้องกันตัวเอง ด้วย ‘ภูมิคุ้มกัน’
เมื่อโควิดกลายเป็น ‘โรคประจำถิ่น’
ปัจจุบันนี้สถานการณ์ของโควิดเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว และอีกไม่นานที่โควิดจะกลายเป็น ‘โรคประจำถิ่น’ (Endemic approach) ตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเริ่มมีการผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านอาหาร คาราโอเกะ และเริ่มมีการพิจารณาให้ประชาชนสามารถถอดแมสก์ได้บ้างในบางพื้นที่ แต่ก็อย่านิ่งนอนใจว่าเราจะปลอดภัยจากเชื้อไวรัสตัวนี้ เเม้สถานการณ์จะดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อลดลง ประชากรมีการฉีดวัคซีน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมายืนยันแน่นอนว่าเราจะไม่ติดเชื้อไวรัสได้ เพราะเรายังคงอยู่กับไวรัสตัวนี้ไปอีกนาน และแน่นอนว่าถ้าไวรัสยังอยู่เราก็ต้องปรับตัวเพื่อจะอยู่ร่วมกับมันให้ได้ ซึ่งการดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะภูมิดี เป็นเกราะชั้นเยี่ยมที่จะทำให้เราอยู่กับไวรัสได้ ที่แม้จะติดไวรัสแต่อาการก็จะไม่มาก ผลกระทบก็จะน้อยตามไปด้วย วันนี้มาดูกันว่าการดูแลและป้องกันภูมิคุ้มกันตัวเองทำได้อย่างไรบ้าง
1. ทานอาหารให้หลากหลาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน แนะนำให้เป็นอาหารประเภท Whole Food, Plant base คือ ทานอาหารที่มาจากพืช ทานผักให้หลากชนิดหลากสี และปรุงแต่งให้น้อยที่สุด
2. ออกกำลังกาย ออกกำลังกายในระดับกลางๆ ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายแบบหนักๆ หรือหักโหม เพราะจะเป็นการเพิ่มการอักเสบให้กับร่างกาย
3. นอนให้พอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เวลาเข้านอนที่เหมาะสมคือ เวลา 4 ทุ่ม ไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่ม เพราะร่างกายจะเกิดการซ่อมแซมและสร้างภูมิคุ้มกันตอนเรานอนในเวลา 4 ทุ่ม – ตี 2
4. เครียดให้น้อย อย่างที่รู้กันว่า ยิ่งเครียดภูมิยิ่งตก เราควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองไปจมอยู่กับความเครียด พยายามอยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคต
5. ฉีดวัคซีน ควรฉีดวัคซีนอย่างน้อยให้ครบ 2 เข็ม เพื่อเสริมเกราะคุ้มกันภัยให้กับร่างกาย แม้วัคซีนอาจจะไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่วัคซีนยังคงช่วยลดโอกาสการเจ็บหนักลงได้ (หากมีโอกาสก็ควรพิจารณาบูสต์เข็ม 3 หรือเข็ม 4 ได้ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข)
6. ออกไปใช้ชีวิต อย่าเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน หากได้วัคซีนครบ 2 เข็มแล้วควรออกไปใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงเดิมที่สุด อย่ารอให้ไวรัสหายแล้วค่อยออก เพราะอย่างที่บอกว่ามันต้องอยู่กับเราไปอีกนาน ที่สำคัญห้ามละเลยการป้องกันตัวเอง เรายังจำเป็นต้องทำ Social Distancing อยู่เสมอ
7. สวมหน้ากากอนามัย แม้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการปรับให้ถอดหน้ากากอนามัยได้ในบางพื้นที่ แต่ก็ยังยกเว้นคนกลุ่มเสี่ยง การใช้ชีวิตในสถานที่ปิด อยู่ในกลุ่มคนหมู่มากอยู่ อย่างไรก็ตามการสวมหน้ากากอนามันก็ยังคงป้องกันเชื้อไวรัสได้ดีและมีประสิทธิภาพ
8. เสริมวิตามินแร่ธาตุ วิตามินและแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันคือ วิตามินดี วิตามินซี และ ซิงค์ แต่หากเราอยากเพิ่มเรื่องการลดการอักเสบแนะนำให้เสริมด้วย Fish Oil หรือ Quercetin
ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะเห็นตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อลดลง แต่เราก็ไม่สามารถวางใจเจ้าไวรัสได้ เพราะยังไงเชื้อไวรัสตัวนี้ก็ยังคงอยู่รอบตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน เราจึงต้องมีการปรับตัวและดูแลปกป้องภูมิของตัวเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะการติดเชื้อไม่ใช่เรื่องสนุกและแม้จะหายแล้วบางครั้งก็ยังมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพในระยะยาวของเราอีกด้วย อย่างไรก็อย่าลืมดูแลภูมิคุ้มกันตัวเองไว้เสมอๆ นะคะ : )
