ผลข้างเคียงของยาลดกรดยูริก Allopurinol ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ . ยาลดกรดยูริก …

ผลข้างเคียงของยาลดกรดยูริก Allopurinol ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ ⁉️
.
ยาลดกรดยูริก ตัว Allopurinol เป็นตัวยาที่มักใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าต์ นิ่วทางเดินปัสสาวะ ช่วยป้องกันการเพิ่มระดับของกรดยูริกในร่างกาย แต่ก็มีผลข้างเคียงที่น่ากลัวอยู่เช่นกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกันว่า ผลข้างเคียงของยาลดกรดตัวนี้มีอะไรบ้างที่น่ากลัว และข้อควรระวังทำอย่างไร?
.
💥 1. ตับอักเสบ ยา Allopurinol เมื่อกินแล้วจะมีผลต่อตับ ทำให้ตับอักเสบ แต่ไม่มีผลต่อไต ดังนั้นจึงไม่ควรกินเยอะหรือกินมิลลิกรัมสูง เพราะตัว Allopurinol เป็นพิษสะสมที่ปริมาณยิ่งเยอะยิ่งเป็นพิษมาก
.
💥 2. ผิวแห้ง ผิวลอก มีอาการคัน โดยอาการทางผิวหนังเริ่มแรกจะเป็นแบบที่บอกก่อน ซึ่งถ้ากินยา Allopurinol แล้วมีอาการทางผิวหนังที่บอกจึงควรระวังไว้ แนะนำให้หยุดกินยาก่อน แล้วให้ไปพบแพทย์แล้ว
.
💥 3. ผิวหนังอักเสบ โดยจะเริ่มมีผื่นแดงขึ้น ซึ่งอาการจะเริ่มหนักขึ้น ควรหยุดกินยาก่อน
.
💥 4. เกิด Fixed drug eruption มีลักษณะผื่นเป็นปื้นเหมือนฝ้า หรืออาจมีลักษณะคล้ายรอยบุหรี่จี้ หากเจอลักษณะอาการแบบนี้ คือ คุณแพ้ยา Allopurinol แล้ว
.
💥 5. Steven Johnson Syndrome กลุ่มอาการผิดปกติของผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ผิวหนังและเยื่อบุผิวทั่วร่างกาย โดยเป็นอาการแพ้ที่รุนแรง จะเริ่มจากการเป็นไข้ก่อน ลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่ แล้วตามมาด้วยผิวหนังจะมีผื่นขึ้น เจ็บ แสบ ร้อน แล้วก็จะเริ่มพุพอง ปวดแสบ ปวดร้อนมากขึ้น แล้วเมื่อเป็นครั้งหนึ่งก็จะเป็นทั่วทั้งตัว
.
❗ข้อควรระรังในการใช้ยา Allopurinol
✳️ 1. การตรวจการแพ้ยา Allopurino ซึ่งยาตัวนี้จะมีอาการแพ้ที่รุนแรง แต่ปัจจุบันก็สามารถตรวจการแพ้ยา Allopurinol ได้แล้ว แต่ก็จะมีราคาค่อนข้างสูง แล้วก็ต้องรอผลนาน 2-4 สัปดาห์ (แต่หากใครที่คิดว่าค่าตรวจแพงจะกินยาก็ได้ แต่ควรเริ่มกินยาในขนาดต่ำๆ ก่อน)
.
✳️ 2. เวลาเริ่มกินยา Allopurino ให้เริ่มกินในขนาดต่ำๆ ให้เริ่มที่ 100 มิลลิกรัม อย่าเกิน 150 มิลลิกรัม
.
✳️ 3. หากยูริกสูงมากแล้วยา Allopurino 100 มิลลิกรัม คุมไม่อยู่ แนะนำให้เพิ่มยากลุ่ม Febuxostat จะช่วยลดยูริกได้ดี
.
✳️ 4. การแพ้ยาจะเกิดได้เยอะในคนที่กินยาเยอะ เช่น ในคนที่เป็นหลายโรคทั้งความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ แล้วกินยาอยู่หลายตัว เพราะปกติยาแทบทุกตัวจะต้องใช้ตับในการดีท็อกซ์พิษของยา เมื่อกินยาเยอะๆ ตับก็จะดีท็อกซ์พิษของยาไม่ทัน ดังนั้นในคนที่กินยาร่วมกันหลายๆ ตัว ต้องระวังโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยา Allopurino เพราะเป็นยาที่เป็นพิษสะสมที่จะค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น (หากกินยาประจำอยู่แต่เป็นหวัด หรือผิวหนังติดเชื้อรา แล้วต้องกินยาแก้อักเสบหรือยาฆ่าเชื้อรา ช่วงนี้จึงไม่ควรกินยา Allopurino แล้วใช้ตัว Febuxostat ให้เยอะขึ้น หากหายหวัดหรืออาการดีขึ้นก็ค่อยกลับมากิน Allopurino ได้)
.
✳️ 5. ควรใช้โซดามินท์ร่วมกับยา Allopurino ด้วย การลดกรดยูริกสิ่งหนึ่งที่ช่วยลดได้ คือ การดื่มน้ำ โดยเฉพาะน้ำแร่ จะช่วยขับกรดยูริกออกได้ดี แล้วโซดามินท์เป็นตัวหนึ่งที่ช่วยขับกรดยูริกออกได้ดีเช่นกัน หรือใช้อาหารเสริมจำพวก Celery (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) แมกนีเซียม ก็จะทำให้ร่างกายเป็นด่างจึงยิ่งขับกรดยูริกออกได้ดีขึ้น
.
การกินยารักษาโรคจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายไม่มากก็น้อย การกินยาให้ถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสมจึงสำคัญ การกินยาควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง หากมีอาการข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรหยุดกินยาแล้วไปปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้ปรับยากันได้อย่างถูกต้องนะคะ : )

ติดต่อเรา