ใครๆ ก็อยากมีหน้าเด็ก แต่สังขารก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้หน้าเด็กกว่าวัยที่แท้จริงได้
มีการศึกษาค้นพบว่า Dermal fibroblasts (fat cells) มีความสำคัญกับผิวอ่อนเยาว์ โดย Dermal fibroblasts นี้เป็นตัวสำคัญในการกระตุ้น Collagen และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ช่วยในการปกป้องผิว และมีส่วนในการซ่อมแซมผิว
เมื่อเราอายุเราย่างเข้าวัย 30 collagen กับ elastin จะลดลง และผิวเราจะมีปริมาตรลดลง ไขมันบนใบหน้าลดลง และจะเริ่มหย่อนคล้อย ทำให้โหนกแก้มเราชัดเจนขึ้น ส่วนล่างของใบหน้ามีความเป็นสี่เหลี่ยมและดูหนักขึ้น เพราะผิวหนังของเราหย่อนลงมาทางด้านล่างของใบหน้า
สารอาหารสำคัญที่ช่วยให้หน้าเด็ก มีอะไรบ้าง
ไขมัน
ผิวหน้าของเราประกอบด้วยไขมันและโปรตีน ดังนั้น เราควรรับประทานไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม ไขมันดีในที่นี้ หมายถึง ไขมันที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น เนย น้ำมันมะกอก อโวคาโด 🥑 และไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อสัตว์ ส่วนไขมันที่ไม่ดี ได้แก่ มาการีน น้ำมันปรุงอาหารที่ผ่านกระบวนการมาจากโรงงาน
นอกจากไขมันจะมีส่วนช่วยให้ผิวเราเหี่ยวช้าลงแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน A, D, E, K ได้ดี
วิตามิน A
ถือเป็นวิตามินที่สำคัญมากในการชะลอวัย วิตามิน A ทำให้ผิวของเรานุ่ม กระชับ และไม่แห้งจนเกินไป และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเราผลิตคอลลาเจน
วิตามิน A ที่ได้จากอาหารมี 2 ประเภทคือ ❓
1. Retinol เป็นวิตามินที่พร้อมใช้งาน (pre-formed vitamin A ซึ่งได้จากสัตว์เท่านั้น เช่น ตับ น้ำมันตับปลา ไข่ เนย
2. Provitamin A carotenoids เป็นวิตามินที่ได้จากพืช และต้องผ่านกระบวนการในร่างกาย จึงจะนำไปใช้ได้ เช่น beta-carotene, alpha-carotene, lutein, zeaxanthin, lycopene, และ cryptoxanthin โดยผักผลไม้ที่มีวิตามิน A ส่วนใหญ่จะมีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม
ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ อาจมีความเสี่ยงในการขาดวิตามิน A เนื่องจากการแปรสภาพเป็น Retinol อาจไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ความสามารถในการเปลี่ยนเป็น Retinol นั้นแตกต่างไปตามพันธุกรรมของแต่ละบุคคล
* เนื่องจากวิตามิน A อาจเกิดการสะสมในร่างกายได้ หากเราได้รับวิตามิน A มากเกินไป ก็อาจจะเป็นพิษต่อร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อกินวิตามินเสริมในรูปแบบของน้ำมันตับปลา แต่วิตามินเสริมในรูปแบบของ Provitamin A นั้นไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษ*
วิตามิน E
มีส่วนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ☀️ ป้องกันไม่ให้เกิดแผลเป็น รอยเหี่ยวย่น มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการผลิตฮอร์โมนของต่อมใต้สมอง
วิตามิน E พบได้มากในถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช ผักสีเข้ม ผลไม้บางชนิด และอาหารทะเล
สารอนุมูลอิสระ เป็นสารที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาจากกระบวนการต่างๆ เช่น การเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน และอีกส่วนได้มาจากสภาพแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน แสงแดด โดยอนุมูลอิสระส่งผลเสียต่อร่างกายหลายประการ เช่น การเกิดมะเร็ง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมองและระบบประสาท เบาหวาน โรคหลอดเลือด และความเสื่อมของระบบการมองเห็นตามวัย
วิตามิน E ช่วยลดสารอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
นอกจากควรรับประทานอาหารเพื่อชะลอวัยแล้ว ยังมีสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง
AGEs (Advanced Glycation End-Products)
เรียกอีกอย่างว่า Glycotoxin เป็นสารที่เกิดขึ้นเมื่อโปรตีนหรือไขมันไปรวมตัวกับน้ำตาลในกระแสเลือด โดย AGE นี้ จะทำลายคอลลาเจน และใยโปรตีนในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ
AGEs เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น
และเกิดขึ้นเมื่อเราปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิที่สูง เช่น การทอด ปิ้ง ย่าง
AGEs ส่วนใหญ่ในร่างกายเรามาจากอาหารที่เรารับประทาน ได้แก่ อาหารจากสัตว์ที่มีไขมันสูง
เมื่อนำมาปรุงผ่านความร้อนสูง เช่น เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะสัตว์เนื้อแดง เช่น วัว หมู แกะ) ชีสบางชนิด เนย ไข่ดาว และอาหารแปรรูป (processed food) เข่น ไส้กรอก ขนมถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีค่า AGEs สูง และรับประทานอาหารลดการเกิด AGEs ได้แก่ อาหารที่มีวิตามิน C และ quercetin ซึ่งสารสีในพืช จำพวก ผัก ผลไม้ เมล็ด เช่น หอมใหญ่สีม่วง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไวน์ ส้ม ชา
การสูบบุหรี่ ก็เพิ่มปริมาณของ AGEs ในร่างกาย ทำให้ผิวของเราแก่กว่าวัย
ความเครียด เป็นที่รู้กันดีว่าความเครียดเป็นตัวการหน้า
เหี่ยว ความเครียดจะเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเราเรียกกันว่าฮอร์โมนเครียด ฮอร์โมนนี้จะทำให้ผิวพรรณของเราดูมีอายุมากขึ้น
– น้ำตาลและแป้งขัดขาว ทำให้เกิดการสร้างสารอนุมูลอิสระที่รวดเร็วขึ้น
นอกจากการกินอาหารที่ดี ช่วยให้หน้าเด็กแล้ว อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถหน้าอ่อนกว่าวัยที่แท้จริงได้ โดยไม่ต้องพึ่งหมอ