10 การออกกำลังกายที่เหมาะกับคนเป็นโรคเบาหวาน สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน (ADA) สนั…

10 การออกกำลังกายที่เหมาะกับคนเป็นโรคเบาหวาน
สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน (ADA) สนับสนุนให้ผู้คนที่เป็นโรคเบาหวาน ออกกำลังกายที่ได้เผาผลาญพลังงาน อย่างน้อยอาทิตล์ละ 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ เฉลี่ย 20 นาทีต่อวัน โดยไม่จำเป็นต้องเข้มงวดกวดขันตัวเองให้ต้องไปยิม หรือตื่นแต่เช้ามือไปวิ่งทุกวัน หากแค่เพิ่มกิจกรรมเหล่านี้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
1.เดิน
ไม่จำเป็นต้องรีบไปเสียเงินสมัครสมาชิกฟิตเนตราคาแพง แค่ยอมลงทุนซื้อรองเท้าที่รองรับสรีระและน้ำหนักดีๆ สักคู่ แล้วพาตัวเองออกไปเดินตั้งแต่วันนี้ เดินเร็วๆกลับบ้าน หรือเดินจากที่ทำงานไปขึ้นรถไฟฟ้า-รถประจำทาง เดินแค่วันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

2.ขี่จักรยาน
เพราะว่าคนเป็นโรคเบาหวานครึ่งหนึ่งมักมีปัญหาโรคไขข้ออักเสบ การเดิน วิ่งหรือทำกิจกรรมหนักๆ อาจเป็นอันตรายและสร้างความเจ็บปวดต่อไขข้อกระดูกมากขึ้น หากคุณเริ่มรู้สึกเจ็บเท้า ให้เปลี่ยนมาปั่นจักรยานแบบไร้แรงต้านประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์แทน ก็จะช่วยให้คุณปรับการออกกำลังกายให้เข้ากับพื้นฐานร่างกายของแต่ละคนโดยไม่ต้องทรมานและฝืนตัวเองมากนัก

3.ว่ายน้ำ
การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เป็นมิตรต่อข้อต่อของเรามากที่สุด เพราะน้ำจะพยุงร่างกายทุกส่วนของเราไว้ การว่ายน้ำไม่จำเป็นต้องว่ายในท่าของนักว่ายน้ำมืออาชีพ แค่คุณเดินจ๊อกกิ้งไปกลับระหว่างของสระน้ำ ก็จัดว่าเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนาทั้งกล้ามเนื้อ และทำให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น

4.กีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม
การเลือกกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมนั้น มีไว้สำหรับคนที่ต้องอาศัยพลังมิตรสหายในการผลักดันและเร่งเร้าให้ไปออกกำลังกาย เช่น เล่นบาสเก็ตบอล ฟุตบอล ซอฟท์บอล เทนนิส ซึ่งคุ้นเคยกันดีสำหรับคนที่ชอบเข้าสังคม และทำให้ได้ใช้เวลาว่างกับเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และคนในครอบครัว

5.การเต้นรำ
เป็นกิจกรรมยอดฮิตสำหรับคนรักเสียงเพลง การทำกิจกรรมเข้าจังหวะนอกจากจะทำให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานแล้ว ยังทำให้สุขภาพจิตของคุณแจ่มใสขึ้น คุณจะรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายมากขึ้น และอาจทำให้ลืมเวลาไปเลย ถ้าได้เคลื่อนไหวไปกับจังหวะเพลงที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นร่วมสมัย ซุมบ้า แจสแดนซ์ หรือการเต้นคลาสสิกอย่างลีลาสก็ตาม

6.การยกน้ำหนัก
ผู้หญิงหลายคนอาจจะนึกถึงดัมเบลลูกใหญ่ๆ ในฟิตเนต แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย การยกน้ำหนัก อาจหมายถึงการยกถังน้ำดื่มขนาด 3 ลิตร เก้าอี้ ขวดซอส สิ่งต่างๆ ในบ้านล้วนเป็นอุปกรณ์ในการออกกำลังกายได้ทั้งนั้น ขอแค่คุณประยุกต์ใช้ได้อย่างปลอดภัยและไม่มีน้ำหนักมากเกินจนเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อเกินไปก็พอ

7.การออกกำลังกายแบบใช้อุปกรณ์ต้านแรง
วงแหวนยางยืดลาเท็กซ์ สำหรับเอาไว้ยืดเหยียดร่างกาย สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ หรือซุปเปอร์มาเก็ต และร้านขายอุปกรณ์ออกกำลังกายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ นอกจากจะมีราคาถูกแล้ว ยังมีน้ำหนักเบา ประหยัดเนื้อที่ในการเก็บ สามารถพกพาไปออกกำลังกายได้ทุกที่ ทั้งที่ออฟฟิศ สวนสาธารณะ หรือบนรถประจำทาง

8.การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน
น้ำหนักของตัวเราเองนั่นแหละ คือการออกกำลังกายชนิด weight trainer ชั้นดี การวิดพื้น การเดินขึ้นบันได การทำสว๊อต แพลงกิงค์ ซิทอัพ การลุกนั่ง ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก และฝึกฝนกล้ามเนื้อให้มีความทนทานต่อการออกกำลังกายแบบเผาผลาญพลังงาน (cadio) ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาโรคเบาหวานได้อย่างดี

9.พิลาทิส
พิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่ต้องอาศัยการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในช่วงแรก แต่ในช่วงโควิดแบบนี้การเรียนทางออนไลน์ หรือดูวิดีโอสตรีมมิ่งอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เคล็ดลับของการออกกำลังกายแบบพิลาทิสก็คือการยืดหยุ่น การยืด และการเหยียดอย่างช้าๆและเรียบง่าย ค่อยเป็นค่อยไป ตามจังหวะลมหายใจ ซึ่งเหมาะสำหรับสาวๆ และคนที่ค่อนข้างขี้เกียจออกกำลังกายเป็นอย่างมากค่ะ

10.โยคะ
การฝึกโยคะมีหัวใจสำคัญเหมือนพิลาทิสคือช่วยเรื่องการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและกำหนดลมหายใจเหมือนกัน แต่โยคะจะมีท่าการออกกำลังที่ยากกว่า และซับซ้อนกว่าพิลาทิส รวมถึงต้องอาศัยความชำนาญระดับหนึ่งถึงจะค่อยๆเลื่อนระดับขั้นไปสู่การฝึกท่าโยคะที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องใช้ความสามารถในการยืดหยุ่นร่างกายและความสามารถในการทรงตัว จนเกือบคล้ายกับการฝึกของนักกีฬายิมนาสติก
โยคะยังช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายและทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเต้นพอๆกับการทำ cadio งานวิจัยหลายชิ้นจึงพบว่าการเล่นโยคะ นั้นส่งผลต่อดีการลดระดับน้ำตาลในเลือด การควบคุมน้ำหนัก การลดความอ้วน ลดระดับคอเลสเตอรอล และลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ

สำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน การออกกำลังกายนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร การทานสารอาหารที่มีประโยชน์ และการรักษาทางการแพทย์ การดูแลตัวเองอย่างเข้มงวดในเรื่องโภชนาการ ทานยาและไปพบแพทย์ เช็คระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ และออกกำลังกายเป็นประจำ จะเป็นการชะลอการพัฒนาความเสี่ยงของโรคเบาหวานระยะแรก ไปสู่การเป็นเบาหวานในระยะอันตรายได้ดีที่สุด

สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง Inbox ผ่านเพจ
หรือ Line@ ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help
.

ติดต่อเรา