‘12 อาหาร’ ต้านภัยร้ายอนุมูลอิสระ!
เราทุกคนย่อมมีอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกายของเราอยู่แล้ว แต่หากมีอนุมูลอิสระสะสมไว้ในร่างกายเป็นจำนวนมากแล้วเมื่อเวลานผ่านไปอนุมูลอิสระนั้นจะทำให้เซล์ในร่างกายเสียหายและมีส่วนทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมาได้ จึงต้องมีตัวช่วยคือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายเหล่านั้น เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดกับสุขภาพ วันนี้เราจะพามารู้จักอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่หาทานกันได้กันค่ะ
1. ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) มีรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นหนึ่งในแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี และยังมีความเชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดการอักเสบให้น้อยลง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต และยังช่วยเพิ่มไขมัน HDL ป้องกันการเกิด Oxidized LDL อีกด้วย
.
2. บลูเบอร์รี่ (Blueberry) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ ช่วยป้องกันการเกิดสมองเสื่อม (ตามอายุที่มากขึ้น)
.
3. สตอร์เบอร์รี่ (Strawberry) เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูง มีรสชาติที่ถูกปากคนส่วนใหญ่ อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารที่ทำให้สตอเบอร์รี่เป็นสีแดง หากมีแอนโทไซยานินสูงสตอเบอร์รี่มักจะมีสีแดงสด จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล เพิ่มไขมันดี HDL
.
4. โกจิเบอร์รี่ (Goji Berry) อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า Lycium Barbarum ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ช่วยต่อต้านริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามผิวหนัง
.
5. ราสเบอร์รี่ (Raspberry) มีคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติอร่อย เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหาร วิตามินซี แมงกานีส และสารต้านอนุมูลอิสระแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ต้านการอักเสบ และยับยั้งผลกระทบที่เกิดจากมมะเร็งหลายชนิดได้
.
6. ถั่วพีแคน (Pecans) เป็นแหล่งไขมันดี มีแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพ ถั่วพีแคนยังช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในหลอดเลือด ช่วยลดโอกาสเกิด Oxidized LDL ได้ด้วย
.
7. คะน้า (Kale) เป็นผักตระกูลกะหล่ำ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินเค วิตามินซี และยังเป็นแหล่งแคลเซียมจากพืชชั้นเยี่ยม ที่ช่วยรักษาสุขภาพกระดูกและช่วยให้ระบบการทำงานของเซลล์อื่นๆ ทำงานได้อย่างปกติ (แม้คะน้าปกติจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงแต่คะน้าพันธุ์แดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากถึง 2 เท่า)
.
8. กะหล่ำปลีแดง (Red Cabbage) มีสารต้านอนุมูลอิสระแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่ทำให้กะหล่ำปลีเป็นสีแดง โดยแอนโทไซยานินก็จะพบในสตอเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ด้วย ที่ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้กะหล่ำปลีแดงยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้ผิวสุขภาพดีอีกด้วย
.
9. ผักโขม (Amaranth) เป็นผักที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดชนิดหนึ่ง เต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และแคลลอรี่ต่ำ เป็นแหล่งที่ดีของสารลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงยูวี ช่วยปกป้องดวงตาจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
.
10. อาร์ติโชค (Artichoke) เป็นผักที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหาร แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า กรดคลอโรจีนิค (Chlorogenic Acid) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด ลดโอกาสเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ (การนำอาร์โช้คไปต้มหรือนึ่งจะเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระให้สูงขึ้นได้ แต่ไม่แนะนำให้นำอาร์โช้คไปทอดเพราะอาจลดปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระลงได้)
.
11. บีทรูท (Beetroot) เป็นแหล่งอาหารที่ดีของเส้นใยโพแทสเซียม มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า เบตาเลน (Betalain) ที่ทำให้บีทรูทเป็นสีแดง ช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งลำไส้และทางเดินอาหาร ช่วยระงับการอักเสบ บรรเทาอาการปวดข้อ
.
12. ถั่ว (Bean) พืชตระกูลถั่วหลากหลายชนิดดีต่อสุขภาพ มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี เช่น ถั่วพินโต (Pinto Bean) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แคมป์เฟอรอล (kaempferol) ที่ช่วยลดการอักเสบเรื้อรังและยับยั้งการเติบโตของมะเร็ง
.
แม้สารต้านอนุมูลอิสระร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่บางครั้งก็ไม่เพียงพอ เราสามารถหาสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มได้จากการกิน ซึ่งการกินอาหารที่มีสารต้านนุมูลอิสระสูงจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ ยังไงก็ลองมองหาอาหารที่อุมดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมาทานกันนะคะ เพื่อจะได้ห่างไกลโรคภัยต่างๆ และเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเรากันค่ะ : )
